น้ำมันรำข้าวไรซ์เบอรี่ (Ricberry Rice Bran Oil)
บำรุงผิว คงความชุ่มชื้น ปกป้องไม่ให้ผิวโดนทำร้ายจากแสงแดด
ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีต้นกำเนิดจากการผสมพันธุ์ของข้าวหอมนิล (พ่อ) และข้าวหอมมะลิพันธุ์ 105 (แม่) จากผลงานของ รศ.ดร. อภิชาต วรรณวิจิตร จนได้ข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่มีลักษณะเด่นคือ มีสีม่วงเข้ม เมล็ดเรียวยาว ผิวเรียบเป็นมัน มีกลิ่นหอม สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น โฟเลจ แอนโทไซยานิน เบต้าแคโรทีน แกมมาโอไรซานอล วิตามินบี วิตามินอี ลูทีน แทนนิน สังกะสี โอเมก้า 3 พบว่ารำของข้าวไรซ์เบอร์รี่สีดำจะมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระสูงถึง 229-304.7 μmole/g โดยประกอบด้วยโพลิฟีโนลิก 752.1 mg/100g แอนโทไซยานิน 250.36mg/100g และเบต้าแคโรทีน 63.3 ug/100g ปัจจุบันมีการนำข้าวไรซ์เบอร์รี่มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น โจ๊กแบบผง เครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ ถ้าผลิตโดยกระบวนการบีบอัด หรือที่เรียกว่ากระบวนการสกัดเย็นจะทำให้สารอาหารต่างๆยังคงอยู่ เช่น แกมมาโอริซานอล และกรดไขมันต่างๆ เช่น Pentadecanoic acid, Hexadecenoic acid, Oleic acid และ Linoleic acid ซึ่งพบว่ามีส่วนช่วยในการลดระดับคลอเลสเตอรอลในเลือดได้
น้ำมันรำข้าวไรซ์เบอรี่ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง (Cosmetic Industrial)
น้ำมันรำข้าวไรซ์เบอร์รี่มีคุณสมบัติเป็นสาร Anti-oxidant ที่ดี ช่วยในเรื่องเกี่ยวกับเส้นผม เช่น มีส่วนช่วยในการชะลอการหลุดร่วงของเส้นผม (Anti-hair loss), ชะลอการเกิดผมขาว (Anti-hair gray) ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม (Hair growth) เนื่องจากมีองค์ประกอบของวิตามินบี 3 แกมมาโอริซานอล และด้วยองค์ประกอบที่มีกรดไขมันที่มีประโยชน์จึงช่วยบำรุงหนังศรีษะและเส้นผม ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว พบว่าน้ำมันรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ช่วยในการรักษาความชุ่มชื้น (Moisturizing) ความยืดหยุ่นให้แก่ผิว จึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้ เสริมสร้างเกาะป้องกันผิว ช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่ม และช่วยปกป้องผิวจากแสง UV
น้ำมันรำข้าวไรซ์เบอรี่ในอุตสาหกรรมอาหารเสริม (Supplement Industrial)
องค์ประกอบแกมมาโอริซานอลที่อยู่ในน้ำมันรำข้าวไรซ์เบอร์รี่มีส่วนสำคัญในกระบวนการการเผาผลาญไขมัน และในน้ำมันรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น กรดไขมันไม่อิ่มตัวที่จำเป็น วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินบี โอเมก้า 3-6-9 และกรดอะมิโนที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้มีประโยชน์อย่างมากในการช่วยป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด บำรุงสมองและระบบประสาท ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด มีส่วนช่วยในการป้องกันโรคเบาหวาน เนื่องจากมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของอินซูลิน ช่วยบำรุงสายตา ช่วยยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระจึงมีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง เพิ่มระดับประสิทธิภาพภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซ่อมแซมส่วนร่างกายที่สึกหรอ และด้วยองค์ประกอบของเมลาโทนีนในน้ำมันรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ จึงช่วยในการการนอนหลับ
คุณสมบัติของน้ำมันรำข้าวไรซ์เบอร์รี่
Anti-hair loss
บรรเทาอาการผมขาด หลุด ร่วง
Moisturizing
เพิ่มความชุ่มชื้น ปรับผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ
Anti-hair gray
บำรุงหนังศรีษะ และเส้นผม แก้ปัญหาผมหงอกเร็ว
Sleeping
บำรุงระบบประสาทให้สมองผ่อนคลาย หลับสบาย
Immunity
เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
การพัฒนาต่อยอดงานวิจัยน้ำมันรำข้าวไรซ์เบอรี่
น้ำมันรำข้าวไรซ์เบอร์รี่สามารถนำมาต่อยอดงานวิจัยเพื่อเพิ่มความคงตัวและเพิ่มความสามารถในการออกฤทธิ์ให้แก่สารสำคัญ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการกักเก็บสารออกฤทธิ์กับผลิตภัณฑ์ได้ โดยปัจจุบันบริษัท TIBD ได้มีความร่วมมือกับสถาบันวิจัยต่างๆ ชั้นนำ ทั้งในและต่างประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่น และประเทศบราซิล ในการพัฒนางานวิจัยและสารสกัดจากธรรมชาติ ทั้งนี้หากท่านมีความสนใจร่วมลงทุน ในรูปแบบการพัฒนางานวิจัย พัฒนาสิทธิบัตรทางการค้า หรือต่อยอดผลิตสูตรผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของท่าน สามารถติดต่อทางบริษัทได้ทุกช่องทาง
Reference
Luang-In, Vijitra, et al. “Bioactivities of organic riceberry broken rice and crude riceberry rice oil.” Thai Journal of Pharmaceutical Sciences (TJPS) 42.3 (2018).
Tong, Chuan, and Jinsong Bao. “Rice lipids and rice bran oil.” Rice. AACC International Press, 2019. 131-168.
Peanparkdee, Methavee, Satoshi Iwamoto, and Ryo Yamauchi. “Preparation and release behavior of gelatin-based capsules of antioxidants from ethanolic extracts of Thai Riceberry bran.” Food and Bioprocess Technology 10.9 (2017): 1737-1748.